สิ่งที่คุ้นเคยสำหรับแฟนบอลยูไนเต็ด กลับมาอีกครั้ง เมื่อแมนยูไนเต็ดทะยานแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ นั่นคือสิ่งที่เซอร์ อเล็กซ์ และเหล่าขุนพลผีแดงส่งสาส์นถึงบรรดาคู่แข่งว่าปิศาจแดง กำลังกลับมาไล่ล่าแชมป์ลีกอย่างแท้จริง
ทุกอย่างกำลังเป็นไปในทางที่ควรเป็น ทีมกำลังมีลุ้นแชมป์ในทุกๆ รายการ นักเตะสำรองเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของนักเตะบาดเจ็บได้อย่างไม่มีที่ติ
ขณะที่แฟนบอลไม่มีท่าทีสงสัยเกี่ยวกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อีกแล้ว เขาสามารถครองใจเหล่าบรรดาเรด อาร์มี่ ได้ในที่สุด เจ้าหนูความหวังอย่าง ราฟาเอล กำลังดีวันดีคืน ขณะ จอนนี่ อีแวนส์ แสดงให้เห็นว่า ระดับความสามารถอย่างเขาดีพอที่จะยึดตำแหน่งตัวจริง
ประสบการณ์แชมเปี้ยนสอนให้นักเตะทุกคนเอาชนะกับแรงกดดัน และผลลัพธ์ที่แสดงออกมาสามารถบอกแทนได้ทุกอย่าง ซึ่งต้องชื่นชมนักเตะทุกๆ คนในทีม ที่สามารถแสดงผลงานระดับดีเยี่ยมในการแข่งขันแต่ละนัด
แต่ถ้าจะหาผู้เล่นคนสำคัญ และมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา เชื่อว่าหลายคนคงนึกได้ไม่ยากนัก
ไมเคิล คาร์ริค คือหนึ่งในนั้น มิดฟิลด์วัย 27 ปี พัฒนาฟอร์มการเล่นได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาในฤดูกาลนี้ การเปลี่ยนแปลงปรัชญาการเล่นของเขาทำให้เราเห็นอะไรดีๆ จาก “เอ็มซี” ออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาเริ่มที่จะวิ่งทำเกมรุกสร้างความหลากหลายให้กับทีมมากขึ้น เพราะด้วยความสามารถของเขานั้นดีเกินกว่าที่จะทำได้แค่จ่ายบอลเชื่อมเกมไปมา อีกทั้งเขายังเพิ่มขีดความสามารถ ในการทำประตูอีกด้วย
คาร์ริคถือเป็นนักเตะนำโชคอย่างแท้จริง สองซีซั่นที่เขาอยู่ในทีมจะมีถ้วยแชมป์ติดมือ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือเขาสามารถดึงความเก่งกาจของผู้เล่นที่อยู่รอบๆ ตัวเขาได้ จังหวะการเล่นเกมรุกของทีมดูเพลินตาขึ้นเมื่อมีเจ้าตัวอยู่ในสนาม การออกบอลแต่ละจังหวะล้วนมีความหมาย และการยืนในตำแหน่งที่ดีในหลายๆ จังหวะสำคัญ ทำให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูหลายครั้ง
ถ้าไมเคิล และเพื่อนร่วมทีมยังอยู่ในฟอร์มแบบนี้จนกระทั่งจบซีซั่นล่ะก็ ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี คงไม่หนีไปจากรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด หรอกครับ
Putt_Hub^^
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC